‘ซุปเปอร์นิว’ ร้านตัดเสื้อแห่งตลาดคอวัง

‘ซุปเปอร์นิว’ ร้านตัดเสื้อแห่งตลาดคอวัง

 

“เมื่อกว่า 50 ปีก่อน การจะเป็นช่างตัดเสื้อ ไม่ใช่เรื่องง่าย”  

 

คุณลุงประเสริฐ กิตติวิทยารัตน์ วัย 65 ปี เจ้าของร้านตัดเสื้อซุปเปอร์นิวในตลาดคอวัง จังหวัดสุพรรณบุรี เริ่มต้นบทสนทนา แม้ลุงประเสริฐจะได้ชื่อว่าเกิดมาในครอบครัวช่างตัดผ้า แต่เตี่ยก็เลิกอาชีพตัดผ้าไปก่อนที่คุณลุงจะจำความได้ คุณลุงเล่าให้ฟังว่า

“เตี่ยมาจากเมืองจีน ช่วงแรกเป็นลูกจ้างร้านตัดผ้าในตลาดบางปลาม้า อาศัยครูพักลักจำจึงได้วิชาและมาเปิดร้านตัดเสื้อชื่อ ก้วงง้วน รับตัดผ้าดำและผ้าขาวอยู่ในตลาดคอวัง ผ้าดำใช้ตัดเสื้อชาวนา ผ้าขาวใช้ตัดเสื้อสำหรับพวกทิดสึกใหม่ สมัยนั้นในตลาดคอวังมีร้านตัดเสื้ออยู่ราว 3 – 4 ร้าน ผ้าดำกับผ้าขาวที่ใช้ จะมีพ่อค้าจากนครชัยศรีล่องเรือมาขาย แต่พอความนิยมน้อยลง เตี่ยก็เปลี่ยนไปทำอาชีพอื่น”  

คุณลุงนำตามประทับผ้าที่เตี่ยเคยใช้เป็นสัญลักษณ์บอกยี่ห้อร้าน แทนเครื่องการันตีคุณภาพสินค้าจากร้านก้วงง้วน มาให้พวกเราดูด้วย

 

ลุงประเสริฐ กิตติวิทยารัตน์ ถ่ายภาพหน้าร้านซุปเปอร์นิวพร้อมจักรเย็บผ้าคู่ใจ     

 

ตราประทับผ้า ใช้แทนเครื่องหมายการันตีคุณภาพสินค้าจากร้านก้วงง้วนในสมัยคุณเตี่ย

 

ด้วยใจรัก และการสนับสนุนจากเตี่ย คุณลุงประเสริฐและคุณลุงประสิทธิ์ ผู้เป็นพี่ชาย จึงได้ออกเดินทางจากบ้านเกิดเข้ามาในกรุงเทพฯ เพื่อฝึกทักษะการเป็นช่างตัดเสื้อสมัยใหม่ แต่เส้นทางการเป็นช่างตัดเสื้อของคุณลุงไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เริ่มต้นจากการเป็นเด็กรับใช้ในร้านตัดสูทย่านสะพานควาย แต่ก็ไม่ได้วิชาตัดเสื้อมามากนัก คุณลุงบอกว่า “เขาหวงวิชามาก” ทำงานที่ร้านได้ราว 1 ปี ก็ย้ายไปอยู่ร้านตัดเสื้อแถบคลองเตยซึ่งเป็นร้านที่พี่ชายเคยไปฝึกงานก่อนแยกไปเปิดกิจการของตนเอง ที่นี่คุณลุงประเสริฐมีโอกาสได้ฝึกวิชาตัดเย็บอย่างจริงจังจนสามารถตัดเสื้อเชิ้ตและกางเกงได้ ต่อมาอีกราว 1 ปี คุณลุงจึงย้ายไปอยู่กับพี่ชายที่ “ร้านซุปเปอร์นิว” ย่านวัดสระเกษ เดิมทีเคยเป็นร้านตัดเสื้อชื่อซุปเปอร์คิงส์ แต่พอคุณลุงประสิทธิ์ไปเช่าช่วงต่อ จึงเปลี่ยนชื่อร้านเป็นซุปเปอร์นิว

 

คุณลุงประเสริฐกำลังสาธิตวิธีใช้ตราประทับผ้า หนึ่งในมรดกทางวิชาชีพจากคุณเตี่ย 

 

 

 

 ตัวอย่างลายประทับยี่ห้อของร้านก้วงง้วนจากตราประทับผ้า

 

ร้านซุปเปอร์นิวเปิดดำเนินกิจการในช่วงระหว่าง พ.ศ. 2512-2515 แต่ไม่ประสบความสำเร็จเพราะต้องแบกรับค่าใช้จ่ายสูง คุณลุงกับพี่ชายจึงย้ายไปเช่าห้องและเปิดร้านใหม่ใกล้โรงหนังบุศยพรรณ ย่านบางลำพู คุณลุงพูดถึงร้านซุปเปอร์นิวที่บางลำพูว่า“เขาคิดค่าเช่าเดือนละ 1,500 บาท สมัยนั้นพวกเสื้อผ้าสำเร็จรูปยังมีไม่มาก ที่ร้านคิดค่าตัดกางเกง ตัวละ 50 บาท ค่าตัดชุดกระโปรงของผู้หญิง ชุดละ 100 กว่าบาท”  

 

คุณลุงเป็นช่างตัดเสื้อที่ร้านซุปเปอร์นิว บางลำพู ได้ราว 1 ปี ก็ต้องเกณฑ์ทหาร จากนั้นในปี พ.ศ. 2518 เมื่อครบกำหนดรับใช้ชาติ จึงกลับไปเปิดร้านที่บ้านเกิดในตลาดคอวัง โดยมีเตี่ยจัดการซื้อหาอุปกรณ์ต่างๆ และออกค่าใช้จ่ายในการเปิดร้านให้ทั้งหมด คุณลุงใช้ชื่อร้านตัดเสื้อร้านใหม่ว่า “ซุปเปอร์นิว” ตามชื่อร้านของพี่ชายที่บางลำพู  คุณลุงกล่าวทิ้งท้ายอย่างอารมณ์ดีว่า “ร้านตัดเสื้อชื่อเดียวกัน เจ้าของร้านทั้ง 2 เป็นพี่น้องกัน แต่ที่นี่ไม่ได้เป็นสาขาของร้านที่บางลำพูนะ บัญชีรายรับก็ไม่เกี่ยวข้องกัน พอดีเขาเปลี่ยนป้าย ปลดป้ายเก่าลง เราเลยยืมป้ายชื่อร้านของเขามาใช้เฉยๆ ใช้มาเรื่อยๆ จนถึงทุกวันนี้”  

 

ร้านซุปเปอร์นิวในปัจจุบัน

 

หมายเหตุ* 

เก็บข้อมูลเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2559  

 


Tags

เกสรบัว อุบลสรรค์

กองบรรณาธิการวารสารเมืองโบราณ